สอบถามข้อมูล

IBA (3-Indolebutyric acid) และ IAA (3-indole acetic acid) แตกต่างกันอย่างไร?

เมื่อพูดถึงสารเร่งราก ผมเชื่อว่าเราทุกคนคงคุ้นเคยกับสารเหล่านี้ดี สารที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่ กรดแนฟทาลีนอะซิติกIAA 3-อินโดลอะซิติกแอซิด, IBA 3-อินโดลบิวทิริกแอซิดเป็นต้น แต่คุณรู้ความแตกต่างระหว่างกรดอินโดลบิวทิริกและกรดอินโดลอะซิติกหรือไม่?

-1-แหล่งข้อมูลต่างๆ

IBA (3-Indolebutyric acid) เป็นฮอร์โมนที่เกิดขึ้นเองภายในพืช แหล่งกำเนิดของมันอยู่ภายในพืช และสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ภายในพืชเองIAA 3-อินโดลอะซิติกแอซิดเป็นสารสังเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายกับ IAA และไม่มีอยู่ในพืช

t01a244d8a7e1e0c98b

-2-คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของพวกมันแตกต่างกัน

กรด 3-อินโดลอะซิติก (IAA) บริสุทธิ์เป็นผลึกใสคล้ายใบไม้หรือผงผลึก ละลายได้ดีในเอทานอลปราศจากน้ำ เอทิลอะซิเตต และไดคลอโรอีเทน ละลายได้ในอีเทอร์และอะซิโตน แต่ไม่ละลายในเบนซีน โทลูอีน น้ำมันเบนซิน และคลอโรฟอร์ม

IBA (3-Indolebutyric acid) ละลายได้ในตัวทำละลายอินทรีย์ เช่น อะซิโตน อีเทอร์ และเอทานอล แต่ละลายได้น้อยในน้ำ

-3-ความเสถียรที่แตกต่างกัน:

กลไกการออกฤทธิ์ของ IAA (3-อินโดลอะซิติกแอซิด) และIBA 3-อินโดลบิวทิริกแอซิดโดยพื้นฐานแล้วสารทั้งสองชนิดมีความคล้ายคลึงกัน พวกมันสามารถส่งเสริมการแบ่งเซลล์ การยืดตัวและการขยายตัวของเซลล์ กระตุ้นการสร้างความแตกต่างของเนื้อเยื่อ เพิ่มการซึมผ่านของเยื่อหุ้มเซลล์ และเร่งการไหลของโปรโตพลาสซึม อย่างไรก็ตาม IBA (3-Indolebutyric acid) มีความเสถียรมากกว่า IAA (3-indole acetic acid) แต่ก็ยังอาจสลายตัวได้เมื่อสัมผัสกับแสง จึงควรเก็บรักษาให้พ้นจากแสง

1639827196985750_副本

-4-ยาผสม:

หากนำสารควบคุมการออกฤทธิ์มาผสมกัน ผลลัพธ์จะยิ่งเด่นชัดขึ้นหรืออาจดียิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นจึงยังคงแนะนำให้ผสมกับผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน เช่น โซเดียมแนฟโทอะซิเตต โซเดียมไนโตรฟีนอลเลต เป็นต้น

 

วันที่โพสต์: 8 กันยายน 2025