การสอบถาม

ความลับของการใช้กรดแนฟทิลอะซิติกกับผัก

กรดแนฟทิลอะซิติก สามารถเข้าสู่ลำต้นของพืชได้ทางใบ ผิวที่บอบบางของกิ่งก้าน และเมล็ด และลำเลียงสารอาหารไปยังส่วนต่างๆ ของพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อความเข้มข้นค่อนข้างต่ำ สารนี้จะทำหน้าที่ส่งเสริมการแบ่งเซลล์ ขยายและกระตุ้นการสร้างรากแอดเวนติติก เพิ่มอัตราการติดผล ป้องกันการร่วงของผล ปรับปรุงอัตราส่วนดอกเพศผู้ต่อดอกเพศเมีย เป็นต้น เมื่อความเข้มข้นสูงขึ้น สารนี้จะกระตุ้นให้เกิดการผลิตเอทิลีนภายในร่างกาย ซึ่งมีผลในการเร่งการสุกและเพิ่มผลผลิต

1.มะเขือเทศ

ในช่วงออกดอกของพืช การใช้ผงที่ละลายน้ำได้ 40% ในอัตรา 20,000 ถึง 40,000 เท่าของของเหลว หรือน้ำ 5% ในอัตรา 3,000 ถึง 5,000 เท่าของของเหลว หรือน้ำ 1% ในอัตรา 500 ถึง 1,000 เท่าของของเหลวแบบพ่น สามารถส่งเสริมให้พืชติดผล หลีกเลี่ยงปรากฏการณ์ดอกร่วง เพิ่มอัตราการติดผล และปรับปรุงผลผลิตของพืช

2.แตงโม

ในช่วงออกดอกของพืช การใช้ผงละลายน้ำ 40% ในอัตรา 20,000 ถึง 40,000 เท่าของของเหลว หรือน้ำ 5% ในอัตรา 3,000-5,000 เท่าของของเหลว หรือน้ำ 1% ในอัตรา 500-1,000 เท่าของของเหลวแบบพ่น สามารถส่งเสริมให้พืชติดผลและหลีกเลี่ยงดอกร่วงได้

3.แตงโม

ในช่วงออกดอกของพืช การใช้ผงละลายน้ำ 40% ที่มีความเข้มข้น 20,000 ถึง 40,000 เท่าของของเหลว หรือสารกำจัดน้ำ 5% ที่มีความเข้มข้น 3,000-5,000 เท่าของของเหลว หรือสารกำจัดน้ำ 1% ที่มีความเข้มข้น 500-1,000 เท่าของของเหลวแบบพ่น สามารถมีบทบาทในการส่งเสริมผลผลิตของพืช หลีกเลี่ยงการร่วงของผลไม้ และปรับปรุงผลผลิต

ฟู)3)58H~5R}[Z_@R[N3JNQ

วัตถุออกฤทธิ์ของกรดแนฟทิลอะซิติกมีหลักๆ ดังนี้:

1. แช่เมล็ดข้าวสาลีด้วยของเหลว 20 มก./กก. เป็นเวลา 10-12 ชั่วโมง จากนั้นทำให้เมล็ดแห้ง ฉีดพ่นด้วยของเหลว 25 มก./กก. หนึ่งครั้งก่อนจะต่อยอด และฉีดพ่นใบและรวงด้วยของเหลว 30 มก./กก. หลังจากออกดอก ซึ่งสามารถป้องกันการล้มและเพิ่มอัตราการตั้งตัวได้

2. แช่ต้นกล้าข้าวด้วยน้ำยา 10 มก./กก. เป็นเวลา 6 ชม. พบว่าต้นข้าวแข็งแรงและเติบโตเร็วหลังย้ายปลูก

3. ฉีดพ่นยาน้ำ 10-20 มก./กก. ลงบนต้นไม้ 2-3 ครั้งในช่วงที่ดอกฝ้ายบาน โดยเว้นระยะห่าง 10 วัน เพื่อป้องกันการร่วงของดอกฝ้าย

4. จุ่มมันเทศลงในส่วนล่างของต้นกล้า (3 ซม.) ด้วยของเหลว 10 มก./กก. เป็นเวลา 6 ชม. แล้วจึงปลูกเพื่อปรับปรุงอัตราการรอดและผลผลิต


เวลาโพสต์: 25 มี.ค. 2568