1. ข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิ
ได้แก่ เขตปกครองตนเองมองโกเลียในตอนกลาง เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุยตอนเหนือ มณฑลกานซู่ตอนกลางและตะวันตก มณฑลชิงไห่ทางตะวันออก และเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
(1) หลักการของการใส่ปุ๋ย
1. กำหนดผลผลิตเป้าหมายตามสภาพภูมิอากาศและความอุดมสมบูรณ์ของดิน ปรับปริมาณปุ๋ยไนโตรเจนและฟอสฟอรัสให้เหมาะสม ใส่ปุ๋ยโพแทสเซียมในปริมาณที่เหมาะสม และเสริมปุ๋ยจุลธาตุในปริมาณที่เหมาะสมตามสภาพธาตุอาหารของดิน
2. ส่งเสริมให้นำฟางกลับคืนสู่ทุ่งนาให้เต็มที่ เพิ่มการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และผสมผสานปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยอนินทรีย์เพื่อปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพิ่มผลผลิต และปรับปรุงคุณภาพ
3. ผสมไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเข้าด้วยกัน ใส่ปุ๋ยรองพื้นตั้งแต่เนิ่นๆ และใส่ปุ๋ยหน้าดินอย่างชำนาญ ควบคุมการใส่ปุ๋ยรองพื้นและคุณภาพของการหว่านอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ต้นกล้าสมบูรณ์ สมบูรณ์ และแข็งแรง การใส่ปุ๋ยหน้าดินอย่างถูกวิธีสามารถป้องกันไม่ให้ข้าวสาลีเจริญเติบโตมากเกินไปและล้มในช่วงแรก และป้องกันไม่ให้ขาดปุ๋ยและผลผลิตลดลงในระยะหลัง
4. การผสมผสานระหว่างปุ๋ยหมักและการชลประทานแบบออร์แกนิก ใช้น้ำและปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยหมักก่อนการชลประทาน และฉีดพ่นสังกะสี โบรอน และปุ๋ยธาตุอื่นๆ ในระยะการออกดอก
(2) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใส่ปุ๋ย
1. แนะนำใช้สูตร 17-18-10 (N-P2O5-K2O) หรือสูตรใกล้เคียง และเพิ่มปริมาณปุ๋ยคอกเป็น 2-3 ลูกบาศก์เมตร/หมู่ ตามสภาพพื้นที่
2. ระดับผลผลิตต่ำกว่า 300 กก./หมู่ ปุ๋ยพื้นฐานอยู่ที่ 25-30 กก./หมู่ และปุ๋ยยูเรียที่ใส่หน้าดินอยู่ที่ 6-8 กก./หมู่ ร่วมกับการให้น้ำตั้งแต่ระยะการไถพรวนจนถึงระยะการแตกกอ
3. ระดับผลผลิตอยู่ที่ 300-400 กก./หมู่ ปุ๋ยรองพื้นอยู่ที่ 30-35 กก./หมู่ และปุ๋ยยูเรียที่ใส่หน้าดินอยู่ที่ 8-10 กก./หมู่ ร่วมกับการให้น้ำตั้งแต่ช่วงการไถพรวนจนถึงช่วงการแตกกอ
4. ระดับผลผลิตอยู่ที่ 400-500 กก./หมู่ ปุ๋ยรองพื้นอยู่ที่ 35-40 กก./หมู่ และปุ๋ยยูเรียหน้าดินอยู่ที่ 10-12 กก./หมู่ ร่วมกับการให้น้ำตั้งแต่ระยะการไถพรวนจนถึงระยะการแตกกอ
5. ระดับผลผลิตอยู่ที่ 500-600 กก./หมู่ ปุ๋ยรองพื้นอยู่ที่ 40-45 กก./หมู่ และปุ๋ยยูเรียที่ใส่หน้าดินอยู่ที่ 12-14 กก./หมู่ ร่วมกับการให้น้ำตั้งแต่ช่วงการไถพรวนจนถึงช่วงการแตกกอ
6. ระดับผลผลิตมากกว่า 600 กก./หมู่ ปุ๋ยพื้นฐานอยู่ที่ 45-50 กก./หมู่ และปุ๋ยยูเรียที่ใส่หน้าดินอยู่ที่ 14-16 กก./หมู่ ร่วมกับการให้น้ำตั้งแต่ช่วงการไถพรวนจนถึงช่วงการแตกกอ
2. มันฝรั่ง
(1) พื้นที่ปลูกมันฝรั่งแห่งแรกในภาคเหนือ
ได้แก่ เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน มณฑลกานซู่ เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย มณฑลเหอเป่ย มณฑลซานซี มณฑลส่านซี มณฑลชิงไห่ และเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
1. หลักการใส่ปุ๋ย
(1) กำหนดปริมาณปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมที่เหมาะสมโดยพิจารณาจากผลการทดสอบดินและผลผลิตเป้าหมาย
(2) ลดอัตราส่วนการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนพื้นฐาน เพิ่มจำนวนการใส่ปุ๋ยหน้าดินอย่างเหมาะสม และเสริมสร้างการจัดหาปุ๋ยไนโตรเจนในช่วงการสร้างหัวและช่วงการขยายตัวของหัว
(3) ตามสถานะธาตุอาหารในดิน ปุ๋ยขนาดกลางและปุ๋ยธาตุรองจะถูกฉีดพ่นบนใบในช่วงที่มันฝรั่งเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง
(4) เพิ่มการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยอนินทรีย์ร่วมกัน หากใช้ปุ๋ยอินทรีย์เป็นปุ๋ยรองพื้น ก็สามารถลดปริมาณปุ๋ยเคมีได้ตามความเหมาะสม
(5) การใช้ปุ๋ยร่วมกับการควบคุมศัตรูพืชและวัชพืช ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษในการควบคุมโรค
(6) สำหรับแปลงที่มีเงื่อนไขเช่น ระบบน้ำหยด ระบบน้ำพรม ควรมีการบูรณาการน้ำและปุ๋ย
2. คำแนะนำในการใส่ปุ๋ย
(1) สำหรับพื้นที่แห้งแล้งที่มีผลผลิตน้อยกว่า 1,000 กิโลกรัม/หมู่ แนะนำให้ใช้ปุ๋ยสูตร 19-10-16 (N-P2O5-K2O) หรือปุ๋ยสูตรใกล้เคียงกันที่อัตรา 35-40 กิโลกรัม/หมู่ ให้ใช้เพียงครั้งเดียวระหว่างหว่าน
(2) สำหรับพื้นที่ชลประทานที่มีผลผลิต 1,000-2,000 กก./หมู่ แนะนำให้ใช้ปุ๋ยสูตร (11-18-16) อัตรา 40 กก./หมู่ ปุ๋ยยูเรีย อัตรา 8-12 กก./หมู่ ตั้งแต่ระยะต้นกล้าจนถึงระยะขยายหัว ปุ๋ยโพแทสเซียมซัลเฟต อัตรา 5-7 กก./หมู่
(3) สำหรับพื้นที่ชลประทานที่มีผลผลิต 2,000-3,000 กก./หมู่ แนะนำให้ใช้ปุ๋ยสูตร (11-18-16) อัตรา 50 กก./หมู่ เป็นปุ๋ยเมล็ด และปุ๋ยยูเรีย อัตรา 15-18 กก./หมู่ ในระยะต้นกล้าถึงระยะหัวขยายตัว อัตรา 7-10 กก./หมู่ โพแทสเซียมซัลเฟต อัตรา 7-10 กก./หมู่
(4) สำหรับพื้นที่ชลประทานที่มีผลผลิตมากกว่า 3,000 กก./หมู่ แนะนำให้ใช้ปุ๋ยสูตร (11-18-16) 60 กก./หมู่ เป็นปุ๋ยเมล็ด และปุ๋ยยูเรีย 20-22 กก./หมู่ เป็นระยะตั้งแต่ต้นกล้าจนถึงระยะขยายพันธุ์หัว โพแทสเซียมซัลเฟต 10-13 กก./หมู่
(2) พื้นที่มันฝรั่งฤดูใบไม้ผลิตอนใต้
ได้แก่ มณฑลยูนนาน มณฑลกุ้ยโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มณฑลกวางตุ้ง มณฑลหูหนาน มณฑลเสฉวน และเมืองฉงชิ่ง
คำแนะนำในการใส่ปุ๋ย
(1) แนะนำให้ใช้ 13-15-17 (N-P2O5-K2O) หรือสูตรที่คล้ายคลึงกันเป็นปุ๋ยรองพื้น และใช้ยูเรียและโพแทสเซียมซัลเฟต (หรือปุ๋ยไนโตรเจน-โพแทสเซียมผสม) เป็นปุ๋ยแต่งหน้า นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้ 15-5-20 หรือสูตรที่คล้ายคลึงกันเป็นปุ๋ยแต่งหน้าได้เช่นกัน
(2) ระดับผลผลิตต่ำกว่า 1,500 กก./หมู่ และแนะนำให้ใช้ปุ๋ยสูตร 40 กก./หมู่ เป็นปุ๋ยรองพื้น ปุ๋ยหน้าดินยูเรีย 3-5 กก./หมู่ และโพแทสเซียมซัลเฟต 4-5 กก./หมู่ ตั้งแต่ระยะต้นกล้าจนถึงระยะขยายตัวของหัว หรือปุ๋ยหน้าดิน ใช้ปุ๋ยสูตร (15-5-20) 10 กก./หมู่
(3) ระดับผลผลิตอยู่ที่ 1,500-2,000 กก./หมู่ โดยปุ๋ยรองพื้นที่แนะนำคือปุ๋ยสูตร 40 กก./หมู่ ส่วนปุ๋ยหน้าดินคือยูเรีย 5-10 กก./หมู่ และโพแทสเซียมซัลเฟต 5-10 กก./หมู่ ตั้งแต่ระยะต้นกล้าจนถึงระยะขยายตัวของหัว หรือปุ๋ยหน้าดินสูตร (15-5-20) 10-15 กก./หมู่
(4) ระดับผลผลิตอยู่ที่ 2,000-3,000 กก./หมู่ โดยปุ๋ยรองพื้นที่แนะนำคือปุ๋ยสูตร 50 กก./หมู่ ส่วนปุ๋ยหน้าดินคือยูเรีย 5-10 กก./หมู่ และโพแทสเซียมซัลเฟต 8-12 กก./หมู่ ตั้งแต่ระยะต้นกล้าจนถึงระยะขยายตัวของหัว หรือปุ๋ยหน้าดินสูตร (15-5-20) 15-20 กก./หมู่
(5) ระดับผลผลิตมากกว่า 3,000 กก./หมู่ และแนะนำให้ใช้ปุ๋ยสูตร 60 กก./หมู่ เป็นปุ๋ยรองพื้น ปุ๋ยหน้าดินยูเรีย 10-15 กก./หมู่ และโพแทสเซียมซัลเฟต 10-15 กก./หมู่ ในระยะต้นกล้าถึงระยะขยายตัวของหัว หรือปุ๋ยหน้าดิน ใช้ปุ๋ยสูตร (15-5-20) 20-25 กก./หมู่
(6) ใช้ปุ๋ยอินทรีย์เชิงพาณิชย์ 200-500 กิโลกรัม หรือปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายแล้ว 2-3 ตารางเมตรต่อมูลสัตว์เป็นปุ๋ยรองพื้น โดยสามารถลดปริมาณปุ๋ยเคมีลงได้ตามปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ที่ใช้
(7) สำหรับดินที่ขาดโบรอนหรือขาดสังกะสี สามารถใช้โบแรกซ์ 1 กก./หมู่ หรือซิงค์ซัลเฟต 1 กก./หมู่ ได้
เวลาโพสต์: 19 เม.ย. 2565