การสอบถาม

หน้าที่และการใช้ไบเฟนทริน

ไบเฟนทรินมีฤทธิ์ฆ่าแมลงแบบสัมผัสและเป็นพิษต่อกระเพาะอาหาร แต่ไม่มีฤทธิ์ในระบบหรือรมควัน ออกฤทธิ์เร็ว ออกฤทธิ์ยาวนาน และออกฤทธิ์ฆ่าแมลงได้หลากหลาย ส่วนใหญ่ใช้ควบคุมแมลงศัตรูพืช เช่น ตัวอ่อนของผีเสื้อกลางวัน เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง และไรเดอร์

การใช้ไบเฟนทริน

1. ควบคุมศัตรูพืชใต้ดิน เช่น แตงโม ถั่วลิสง และพืชอื่นๆ เช่น หนอนหนอนลวด ฯลฯ

2. ควบคุมศัตรูพืชประเภทผัก เช่น เพลี้ยอ่อน หนอนกระทู้หอม หนอนกระทู้หอม หนอนกระทู้หอม หนอนกระทู้หอม เพลี้ยแป้ง เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยแป้งเรือนกระจก ไรเดอร์แดงมะเขือยาว และไรแดงชา

3. ควบคุมศัตรูพืชต้นชา เช่น หนอนกระทู้ชา หนอนผีเสื้อชา มอดพิษชาดำ มอดชาต่อย เพลี้ยจักจั่นสีเขียวตัวเล็ก แมลงหวี่ขาวชาเหลือง ไรชาเคราสั้น มอดใบชา เพลี้ยแป้งหนามดำ และด้วงจุดชา

O1CN01rKfDkV1EQVxnc59X4_!!2216925020346

วิธีใช้ไบเฟนทริน

1. เพื่อควบคุมไรแดงมะเขือม่วง ให้ใช้ไบเฟนทรินเข้มข้น 10% ปริมาณ 30-40 มิลลิลิตร ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ผสมน้ำ 40-60 กิโลกรัม อย่างสม่ำเสมอ แล้วฉีดพ่น ออกฤทธิ์ยาวนานประมาณ 10 วัน ส่วนไรแดงบนมะเขือม่วงสามารถควบคุมได้โดยการฉีดพ่นไบเฟนทรินเข้มข้น 10% ปริมาณ 30 มิลลิลิตร ผสมน้ำ 40 กิโลกรัม อย่างสม่ำเสมอ

2. ในระยะเริ่มแรกของการเกิดเพลี้ยแป้งในพืชผัก แตงโม และพืชผลอื่นๆ สามารถใช้สารไบเฟนทรินน้ำ 3% อัตรา 20-35 มิลลิลิตร หรือสารไบเฟนทรินน้ำ 10% อัตรา 20-25 มิลลิลิตร ต่อ mu ผสมกับน้ำ 40-60 กิโลกรัม เพื่อควบคุมการพ่น

3. สำหรับศัตรูพืช เช่น หนอนกระทู้ เพลี้ยจักจั่นใบเขียวขนาดเล็ก หนอนผีเสื้อใบชา และเพลี้ยแป้งหนามดำบนต้นชา สามารถฉีดพ่นสารละลายยาฆ่าแมลงเจือจาง 1,000 ถึง 1,500 เท่า เพื่อควบคุมในช่วงอายุ 2 ถึง 3 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่แมลงยังเล็กและเมื่อมีตัวอ่อน

4. ในช่วงที่เกิดตัวเต็มวัยและตัวอ่อน เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง แมงมุมแดง บนผักตระกูลกะหล่ำและวงศ์แตงกวา สามารถพ่นยาน้ำเจือจาง 1,000 ถึง 1,500 เท่า เพื่อควบคุม

5. เพื่อควบคุมไร เช่น ฝ้ายและแมงมุมแดงฝ้าย รวมถึงแมลงศัตรูพืช เช่น มอดใบส้ม สามารถฉีดพ่นสารละลายยาฆ่าแมลงเจือจาง 1,000 ถึง 1,500 เท่าลงบนต้นไม้ได้ในช่วงฟักไข่หรือระยะฟักตัวสูงสุดและระยะตัวเต็มวัย

 

เวลาโพสต์: 22 เม.ย. 2568